นาคบาศ เนื้อเมฆสิทธิ์นิลกาล

คุณสมบัติสินค้า:

SKU : 013

Share


┏━━━━━━━━━━━━━┓
  นาคบาศ เนื้อเมฆสิทธิ์นิลกาล 
┗━━━━━━━━━━━━━┛
นาคบาศ เนื้อเมฆสิทธิ์นิลกาล
--------------------------------
นาคบาศตามตำราที่ถูกต้อง
จะต้องเป็นงูสองตัวที่กินหางกัน
ไม่ใช่งูตัวเดียว ไม่ใช่พญานาค
ตามตำราพญางูตัวนี้
พญางูสมัยก่อนไม่ใช่นาคเป็นงู
--------------------------------
แต่ด้วยปัจจุบันมีวิวัฒนาการ
ตามด้านความเชื่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์พัฒนา
จนมาเป็นนาคหมดแล้ว
แต่ดั้งเดิมคือการบูชาพญางูก็คือเป็นของพวกเขมรต่ำ
เขมรสูงเขาจะบูชาสุริยเทพ
พวกเขมรฝ่ายล่างเขาจะมีการบูชางู
ตั้งแต่พญานาคซึ่งเป็นงูใหญ่
จนถึงเป็นพญานาคเป็นงูใหญ่ที่อยู่ในน้ำ
พญาจงอางเนี่ยเป็นงูใหญ่ที่อยู่บนดิน
--------------------------------
เพราะฉะนั้นเขาก็จะ
มีแยกออกมา 2 เวอร์ชั่นว่า
คนที่หากินทางน้ำก็จะบูชาพญานาค
คนที่หากินบนบกก็จะบูชาพญา งูจงอาง
ในยุคของเขมรต่ำ
ส่วนความเชื่อก็มีการพูดมาตั้งแต่สมัยอดีตมา
เป็นพัน ๆ ปี เกี่ยวกับเรื่องงู
ถ้าเป็นของจีนก็อย่างที่ อ.แขก ได้บอกไป
--------------------------------
ก็คือหม่ากู้กับหนี่วา
ซึ่งเป็นตัวแทนของพลังงาน
ซึ่งครั้งแรกที่แปลรูปลักษณ์จากภูติ
เป็นพลังงานที่เห็นด้วยตา
จนเป็นคนก็มีท่อนบนเป็นคนท่อนล่างเป็นงู
ซึ่งเป็นความเชื่อระหว่างครึ่งเทพกับครึ่งนาคา
ก็ยังเป็นงู 2 ตัว
--------------------------------
ถ้ามาในยุคของอียิปต์หรือยุคของเก่า ๆ
ก็คือพวกชนเผ่านาคา
ที่มาของชื่อนาคาก็มาจากเผ่านาคา
แต่ถ้าจะให้เก่ากว่านั้นก็เป็นพวกที่
สร้างปิรามิดเก่า ๆ ที่เรารู้ก็คือ
พวกมายันต์ เขาจะมีการบูชาเทพเจ้า
ไปตามตำแหน่งดวงดาวซึ่งดาวที่ส่งผล
กับสิ่งมีชีวิตเนี่ยมีรูปลักษณ์คล้ายงู
ก็มักจะเรียกว่าดาวงูในสมัยชนเผ่ามายันต์
ก็มีเชิงสัญลักษณ์เป็น
รูปงูสองประเภทคืองูที่อยู่บนท้องฟ้า
กับงูที่อยู่ในน้ำ
เพราะฉะนั้นถ้าเราพูดถึงสัญลักษณ์งู
ที่เก่า ๆ มันก็จะแบ่งเวอร์ชั่นไปว่า
เวอร์ชั่นที่เป็นพลังจากนอกโลก
ในยุคของอียิปต์ในยุค
ของในพวกชนเผ่ามายันต์
ก็จะเป็นพลังจากดาวแต่พอมาเป็น
รูปลักษณ์ที่มีรูปลักษณ์แล้วบนโลกมนุษย์
ในสมัยอดีตก็ยกให้เป็นพวกไดโนเสาร์
ที่มีกึ่งคล้าย ๆ เป็นงูก็คือเก่าใน
ยุคไดโนเสาร์
พอมาในยุคปัจจุบันมันไม่เห็นไดโนเสาร์หิน
ก็เป็นฟอสซิลมันก็ยังมีลูกหลานเผ่าพันธ์
ให้เชื่อว่าเป็นพยานาคที่อาศัยอยู่ในน้ำ
และเป็นพญางูที่มีชีวิตเลยพวก
อนาคอนด้าต่างๆ ที่อยู่บนบก
แต่งูเนี่ยเราจะเห็นว่างูสามารถอยู่ได้
ทั้งในบกและในน้ำก็คือเป็นสัตว์ที่มีความพิเศษ
ก็คือสามารถหายใจได้ทั้งในบกและในน้ำ
--------------------------------
แต่เมื่อไหร่ที่เราพูดถึงนาคบาศ
เราจะคิดถึงนิยายปรำปราอินเดียกับกรีก
ซึ่งมีมาคล้าย ๆ กัน ของอินเดียก็คือ
ว่าด้วยเรื่องพระอินทร์ที่เป็นมหาเทพ
เป็นเจ้าแห่งมหาเทพ
ในดาวนพเคราะห์ทั้ง 9 โดยมีพระอินทร์
เป็นประธานและก็มีผู้ที่คุมความมั่งคั่งร่ำรวย
ก็คือท้าวพระกุเวรเป็นเทพที่คุ้มความมั่งคั่งร่ำรวย
พร้อมกับนวดาราทั้ง 9 ก็คือ เทพที่คุ้มดาวทั้ง 9
--------------------------------
พอมาในยุคของไทยก็ว่าด้วยเรื่องสัตว์
ในป่าหิมพานต์ ก็มีพวกคนธรรพ์ นาคา
ครุฑ ซึ่งนาคบาศอยู่ในความเชื่อ
ในระบบของป่าหิมพานต์
ตรงที่ว่าครุฑกับนาคเนี่ยเกิดมาจาก
การเเป็นพี่น้องกันแต่คนละแม่
และสองเผ่าพันธ์เนี่ยเกิดการประหัก
ประหารผิดใจกันมาทุกยุคทุกสมัย
--------------------------------
ความเชื่อนี้ก็ยังฝังหลงเหลือ
อยู่ในยุคปัจจุบัน แต่ถ้าถามว่า
ใครมีอำนาจมากกว่ากัน
แน่นอนปัจจุบันต้องยกให้พยาครุฑ
เพราะพยาครุฑจับนาคกินได้
แต่นาคไม่สามารถไปทำอะไรพยาครุฑได้
แต่ว่าตำนานกาลของนาคบาศ
มีบอกไว้ว่าได้มีพยานาคก็คือ
ศรีสัตตนาคที่เป็นบริวาร
ของพระศิวะที่อยู่บนคอพระศิวะ
ได้ทำการไปขอร้องพระอินทร์
ให้ไปขอร้องพระวิษณุก็คือ
พระนารายซึ่งแปลงร่างเป็นพระวิษณุ
กรรมขอร้องให้สร้างอาวุธขึ้นมาให้แก่ตน
--------------------------------
พระวิษณุก็เห็นแล้วว่าการครั้งนี้
นาคไม่สามารถที่จะมีอาวุธที่จะประจำตัวได้
ยกเว้นเกิดมาจากเผ่าพันธุ์โบราณ
ของตัวเองเท่านั้น
ก็เลยได้ไปชี้แนะพระอินทร์ว่า
ถ้าเกิดว่านาคต้องการอาวุธ
ที่จะต้องเอาใช้ในการประหัดประหาร
พยาครุฑมันก็มีแต่พระยาศรีสัตตนาค
และก็อนันตนาคซึ่งเป็นใหญ่
แห่งพยานาคที่ตามตำราว่าไว้
แต่บางตำรามีการพูดว่าศรีสัตตนาค
กับอนันตนาคเป็นคน ๆ เดียวกัน
แต่ในคำภีร์ของป่าหิมพานต์ที่เกิด
เรื่องนาคบาศได้อธิบายไว้ว่าพระยาศรีสัตตนาค
เนี่ยเป็นนาคที่อยู่บนคอพระศิวะ
แต่อนันตนาคราชที่อยู่บนบัณลังก์
ของพระนารายต์ ผู้สร้างและผู้ทำลายไปพร้อม ๆ กัน
ก็เลยได้ไปขอให้ทั้งสอง
เนรมิตรกายตัวเองให้เป็นพญาจงอาง
ที่อยู่บนบกและทำการกลืนกิน
ก็คือเอาผู้ปกป้องอย่างพระศิวะ
และผู้ทำลายล้างอย่างพระนารายณ์มารวมกัน
--------------------------------
การเกิดนาคบาศครั้งนั้นก็คือ
เป็นอาวุธของพยานาค
ก่อนโดยที่พระอินทร์เป็นฝ่าย
รู้เห็นเป็นกลางโดยการมอบนาคบาศ
ให้เป็นอาวุธของพยานาคเอา
ไว้ปราบพยาครุฑด้วยเหตุที่ว่า
อนันตนาคราชเป็นบริวาร
ของพระนารายณ์และพยาครุฑ
มีฤทธิ์เทียบเท่าพระนารายณ์ก็คือบิน
ข้ามพระนารายณ์ได้
--------------------------------
พระนารายณ์ก็ขี่พยาครุฑเป็น
พาหะบินไปไหนมาไหนได้
เพราะฉะนั้นนาคบาศไม่สามารถ
ฆ่าพยาครุฑได้แต่สามารถหยุดยั้ง
พยาครุฑได้และก็ต้องบินกลับ
ไปให้พระนารายณ์แก้
--------------------------------
อันนี้มีในตำราของป่าหิมพานต์
นี่คือนาคบาศครั้งที่ 1
นาคบาศครั้งที่ 2
เป็นนิยายปรัมปราของพระยาสายฟ้าฟาด
เจ้าเมืองพัทลุง ที่ว่าด้วยเรื่องพรานบุญ
จับนางมโนราห์ที่สระอโนดาต
พรานบุญได้ใช้นาคบาศในการ
จับนางโนราห์ นาคบาศของพรานบุญคือ
พรานบุญเข้าป่าแล้วเห็นงูกินกันสองตัว
ก็คือพยางูจงอางใหญ่กินกันสองตัว
ก็ได้รู้ว่าอันนี้คือนาคบาศ
นาคบาศมีฤทธิ์ในการปราบหยุดยั้ง
เผ่าพันธ์วงวานพยาครุฑ
ก็คือนกอย่างนางกินรี
พรานบุญก็เลยเอา
นาคบาศที่เป็นอาวุธไปคล้อง
นางกินรีก็คือนางมโนราห์มา
ได้นางมโนราห์มาก็จับมาถวาย
ให้เจ้าเมืองก็เลยกลายเป็นว่า
เป็นอาวุธของพรานบุญด้วย
--------------------------------
นาคบาศ อ.แขก ได้เอาความเชื่อทั้ง 5 อย่าง
มารวมกันเป็นเราคนเดียว
โดยที่เรายึดพื้นตำนานเดิม
ก็คือนาคบาศกำเนิดเกิดก่อจาก
พยางูใหญ่บนบกก็คือพยางูจงอาง
กินหางกันเพราะว่า
ในคำภีร์การสร้างอาวุธเทพ
ได้บอกไว้ว่านาคบาศสามารถฆ่าอสูร
ผู้มีอายุเป็นพันปีหมื่นปีได้
ซึ่งศาสตราวุธบางประเภท
มีดบางประเภท เทพศาสตราบางประเภท
ฆ่าไม่ตาย แต่นาคบาศฆ่าได้
ในเรื่องของความเชื่อ
--------------------------------
ส่วนนี้มันมีอยู่ในการสร้างอาวุธ
ของพระวิษณุกรรม
ที่ว่าด้วยเรื่องความรุนแรง
ของศาสตราวุธที่พระวิษณุกรรม
ได้สร้างออกมาและอาวุธ
ทั้งหลายทั้งสิ้นทั้งมวล
ในนิยายปรำปราของอินเดีย
ตั้งแต่พยานาคลงมา
ก็มักจะถูกสร้างโดยพระวิษณุกรรม
เพราะฉะนั้นการสร้างอาวุธต่าง ๆ
ก็ต้องบวงศรวงบูชาพระวิษณุกรรม
เป็นอันดับแรกก็คือเป็นผู้สร้าง
--------------------------------
ตำราที่เราได้เรียนสืบถอดมาจาก
อาจารย์หลาย ๆคน
ในวิชาสายใต้ก็มีการทำเขาเรียก
ห่วงนางหงษ์ก็คือนาคบาศมีอยู่ 3 ประเภท
1. ทำด้วยโลหะ
2. ทำด้วยเถาวัลย์
3. ทำด้วยหวาย
--------------------------------
ตำราใต้เรียกบ่วงนางหงส์
ก็คือบ่วงที่ไปคล้องมโนราห์นั่นละ
ถ้าทำด้วยโลหะก็จะมีกรรมวิธีในการ
การสร้าง ทำด้วยเถาวัลย์ก็จะมี
ชนิดของเถาวัลย์
ทำด้วยหวายก็จะมีชนิดของหวาย
ชนิดของหวายก็จะใช้หวายลูกนิมิตร
ลูกเอกในการทำแต่ใน
การทำบ่วงนางหงษ์
ไม่ใช่เครื่องรางที่พกติดตัว
เขาจะเป็นอาวุธของนายนิมล
นายนิมลก็คือหมอบ้านหมอผีบ้าน ๆ
คนใต้เรียกนายนิมล
นายนิมลต้องมีบ่วงนางหงส์
เพื่อว่าในการเรียกผีบรรพบุรุษ
มาเขาจะคล้องไว้ไม่ให้ออก
จนกว่าจะเสร็จงานแล้วก็ปล่อย
นาคบาศของทางใต้
ไม่มีคุณวิเศษในการปราบผี
ของทางใต้ก็คือคล้องอย่างเดียว
ส่วนหวายในตำราใช้หวายนิมิตลูกเอก
เอามารนหัวใจ 3 แถวยาว ๆ
แล้วก็ผูกขวัญโดย
ใช้แหวนเงินแท้ผูกเป็นขวัญบ่วงไว้
ส่วนหวายเขาไม่ใช้หวายนิล
แต่ใช้หวายดำตำราทำบ่วงนางหงส์
เป็นของชุมชนเจ๊ะเหโบราณ
ปัจจุบันคืออำเภอตากใบ
เขาจะได้หวายดำจากเขาโต๊ะเด
สุไหงปาดี นราธิวาส
--------------------------------
บนเขาจะมีหวายดำเขา
ก็จะเอาหวายดำชนิดเดียว
ซึ่งเขาเชื่อว่าเป็นหวายดำที่มีฤทธิ์
มาทำบ่วงนางหงษ์ชั้นสูง
พวกนี้จะเป็นนายนิมนต์ใหญ่คือ
หมอผีใหญ่ก็จะใช้บ่วงหงษ์ดำ
ส่วนบ่วงหงษ์โลหะเขาบอกว่า
ในสมัยอดีตมีเจ้าเมืองปาเซมัส
มีอันนึงทำจากเนื้อโลหะในสมัยก่อน
ตำราที่เรียนมาจากพ่อลำดวน
เอากระดาษสามาเขียนยันต์นาคบาส
และถักเป็นแหวนรอบคล้ายบ่วงนางหงษ์
แต่มาถักเป็นแหวนรอบพกติดนิ้วกันภูติผีปีศาจ
มีกรรมวิธีตั้งแต่กระดาษสา ผ้าห่อศพ
ผ้าพระประธาน และก็ด้ายสาวพรหมจรรย์
--------------------------------
เรียนกับอาจารย์เขียว วัดแสวงหาอ่างทอง
เป็นฆราวาสสักยันต์
ท่านได้วิชาทำนาคบาศแต่ของท่านแปลก
ใช้ทองแดงเถื่อนเขียนยันต์พกแบบเหรียญเลย
ก็คือเอาทองแดงเถื่อนบริสุทธิ์มาเขียนยันต์
แต่ทองแดงเถื่อนต้องเป็นทองแดงฟ้าผ่า
มาเขียนยันต์เจาะรูแขวนพกติดตัว
กันพวกภูติผีปีศาจกันคุณไสย์
อาถรรพ์มนดำ กันไข้ป่า
ทองแดงกันไข้ป่าได้ ใส่ไปในน้ำเวลาต้ม
--------------------------------
อาจารย์พรหมจินดา คือนาคบาศของจริง
เป็นนาคบาศตามตำราสายพรหมณ์
แต่การทำนาคบาศของเขามี 2 ประเภทหลัก
ประเภทที่ 1 คือทำจากผงขมิ้น
ที่บูชาพระพิฆเนศ พระพิฆเนศที่ถูกต้อง
จะต้องปั้นจากผงขมิ้น
--------------------------------
เขาจะเอาผงขมิ้นที่ปั้นพระพิฆเนศ
มาก็เปรียบเสมือนเป็นตัวแทนแห่งงู
ที่อยู่ตรงคอที่ได้จากพระยาพระนารายณ์
มาและก็พระศิวะก็คือผงคาดแดงที่เจิม
ก็เอามาผสมกันท่านก็จะมากดเป็น
รูปงูกินหาง 2 ตัว เพราะเป็น 2 ที่
และมีเนื้อโลหะ แต่เนื้อโลหะเรื่องมาก
วิธีการหาเนื้อโลหะเรื่องมาก
ในสมัยอาจารย์ก็ไม่เคยทำ
เหมือนกันแต่ก็เรียนเอาไว้
--------------------------------
อาจารย์เขียว วัดห้วยเงาะ
บอกตาหลวงว่าอยากทำ
ก็เลยรวมรวบชนวนมวลสาร
ทำครั้งแรกจากครั้งแรก
ก็เลยเป็นประสบการณ์
ที่สมาชิกมหาศาล นาคบาศของ อาจารย์แขก
จะใส่ทุกตำราลงไปมันมีเคล็ดเจ๋งอยู่อย่างนึง
ก็คือการที่มันกินกันสองตัวเนี่ยมันหมายถึง
กินบ่เซี่ยงก็คือกินไม่หมดกินคาปากกินไม่หมด
คือมันเป็นข้อดีเลยเป็นข้อดีของเคล็ดต่างๆ
ที่อยู่บนนาคบาศ
--------------------------------
นอกจากเนื้อพิเศษเนื้อจ้าวน้ำเงิน
กับเนื้อทองสัตตะะโลหะ อาจารย์แขก
ไม่อนุญาตให้เอาใส่นิ้ว ปัญหาจะเยอะ
อาจารย์แขก ได้ทำไว้วงเล็ก ๆ ไม่ทำวงใหญ่
ถ้าวงใหญ่ก็ใหญ่มากไปเลยแบบใส่ไม่ได้เลย
การมีเนื้อโลหะพิเศษเนื้อโลหะอาถรรพ์
เนื้อโลหะพิศดารที่มีค่าต่าง ๆ
เราก็จะเอามาทำนาคบาศก่อน
ด้วยเหตุที่ว่านาคบาศเป็นวัตถุมงคล
ประจำตัวอาจารย์แขกก็ว่าได้
--------------------------------
ประสบการณ์ที่ อ.แขก เจอมา
นาคบาศที่ส่วนมาเอาไปใช้คือ
ผัวเมียเอาชื่อไปใส่ แล้วก็กลับมา
อันดับสองพกไปเล่นการพนัน
เคล็ดกินไม่หมด กินไม่คลาย
พกติดตัวเงินไม่ขาด
แร่เจ้าน้ำเงิน และแร่โคตรเศรษฐี
--------------------------------
พรหมณ์สมัยก่อนเอานาคบาศไว้ใต้เทวาลัย
เอาคุณวิเศษที่ว่ากันคุณไสย์กันมนต์ดำ
--------------------------------
เสริมพลังงานของพระประทานในบ้าน
โดยนำนาคบาศวางไว้ใต้พระประทาน
--------------------------------
เนื้อเมฆสิทธิ์นิลกาล
เป็นนาคบาศที่รับพลังของครีษมายันมา
ใครที่บูชาไป อ.แขก แนะนำ
ควรเก็บไว้ให้ลูกหลาย ไม่ควรขายเด็ดขาด
เพราะไม่มีทางได้กลับมาแล้วแน่นอน
นาคบาศตำรานี้ถ้าไม่ใช่วันครีษมายัน
หาวันนี้ไม่ได้ “ครีษมายัน”
คือวันที่เวลากลางวันยาวนานที่สุดในรอบปี
ซึ่งต้องรออีก 380 ปี
--------------------------------
ถ้าเดือดร้อนจริงๆ ถึงขั้นต้องขายวัตถุมงคลชิ้นนี้
แสดงว่า สมาชิกไม่ได้ใช้คุณวิเศษ หรือการขอ
คุณวิเศษมาใช้กับตัวสมาชิกเอง
อาราธนาพกติดตัว เรื่องยากจะเป็นเรื่องง่าย
จะนำพาพลังงานดีๆ เข้ามาหา
เพราะมีพลังงานยุคนี้เลย
--------------------------------
ร้านมีตังค์สงขลา
วัตถุมงคล อ.แขก รือเสาะ
Line ID : @meetangsongkhla
คลิ๊กลิ้งค์ด้านล่างได้เลยคะ
https://lin.ee/1TKMBgc
แอดแล้วทักเข้ามาสอบถามได้คะ
โน้ตยินดีให้บริการทุกท่านค่ะ
โทร. 089-462-0910

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้