สีผึ้งพรายนางตานี

คุณสมบัติสินค้า:

SKU : 253

Share

┏━━━━━━━┓
สีผึ้งพรายนางตานี
┗━━━━━━━┛

การพกสีผึ้งดีติดตัวยังไง
คือ ดีเรื่องโชคลาภ เห็นชัดมาก
เรื่องเมตตามหานิยม เห็นชัดมาก
โดยที่เราไม่ต้องไปแต้มตรงไหนเลย
.
ในความรู้สึกหรือความเชื่อของคนเรา
หากได้ยินคำว่า..นางตานี
แน่นอนจะต้องเข้าใจว่า
เป็น “ผี” ในต้นกล้วยตานี
บ้างก็ว่าเป็นนางไม้ที่สิงในต้นกล้วยตานี
ซึ่งเป็นความเชื่อที่ปลูกฝังกันมานาน
เป็นเหตุให้คนทั่วไปจึงไม่ค่อยนิยม
ปลูกกล้วยตานี
จริง ๆ แล้วนางตานีเป็นอะไรกันแน่?
.
…จริงๆ แล้วเรียกกันว่าพรายตานีเป็นผู้หญิง
ซึ่งเมื่อตอนมีชีวิตอยู่
ได้สร้างกุศลคือกรรมดี
แต่ด้วยวิบากกรรรมที่เคยทำไว้
มันก็จึงได้รับเศษเสี้ยวของอานิสงค์
แห่งวิบากกรรม หากเขาไม่ตาย
แบบผิดปกติ เขาจะต้องไปเกิด
เป็นเทพแต่ยังไม่ถึงนิพพาน
จึงต้องไปอยู่ในภพภูมิๆ หนึ่ง
เรียกตัวเองว่า “พราย”
.
“พราย” ไม่ใช่ทั้งผีและก็ไม่ใช่เทวดา
มีจิตเป็นทิพย์ เป็นวิญญาณในภพภูมิ 500 ปีมนุษย์
การที่เราจะใช้พราย
เราจะต้องดูว่าเขาหมดกรรม
จากการเป็นมนุษย์เมื่อไหร่
ถ้าเราหมดลมภายใจไป 470 ปี เหลืออีก 30 ปี
เขาก็ไม่เอากัน อย่างน้อยต้องมีภพภูมิ
ไม่ต่ำกว่า 100 ปี ถึงจะเอามาทำ
.
พรายตานีที่ทำขึ้นมานี้
เป็นของหลวงปู่แตง วัดอ่างศิลา
(อาจารย์ของหลวงพ่อปาน วัดบางเหี้ย)
คนที่ได้ของนี้มา คือ จมื่นเจรักษาราษฏร์
คือ เป็นทวด เป็นลูกศิษย์ของหลวงปู่แตง
เรียนวิชาคู่กับหลวงพ่อปาน
วัดบางเหี้ย ท่านจึงได้วิชาสายพรายมา
.
พรายตานีเป็นวิชาที่แทบจะสาบสูญ
เพราะมันเป็นวิชา ที่สามารถให้คุณให้โทษได้
แล้วคนเอาไปใช้ จึงเป็นของที่เขาปิดงำ
เป็นความลับ ไม่ใครนำเรื่องราวของ
พรายตานีมาพูดอย่างถูกต้องเลย
ด้วยความที่เขาเป็นพราย
และเขามีวิบากกรรม
มีทั้งกุศลกรรมและอกุศลกรรม คือ
มีทั้งดีและไม่ดีในตัวเขา
เขาจึงเป็นคนประเภท 2 อารมณ์
การที่เราจะได้เขามา
เราจะต้องมีบุญสัมพันธ์กับเขา
เราจะต้องเป็นคนที่เขาเห็นว่า
สามารถสร้างบุญสร้างกุศล ได้เขาจึงจะมา
.
พรายตานีไม่ใช่เทพและก็ไม่ใช่ผี
เป็นกึ่งอสูรเหมือนราหู มีฤทธิ์มาก
ไม่ใช่ผู้หญิงทุกคนตายแล้วจะไปเป็นพรายตานี
จะต้องเป็นคนมีกุศลกรรมดีมากๆ
แต่โดยเศษเสี้ยวของ
วิบากกรรม เลยทำให้ตายไม่ดี
.
พรายตานีจริงๆ แล้วคือ
ผู้หญิงที่ตายทั้งกลมจมน้ำตาย
พอตายไปก็ไปสิงสู่ในภพภูมิ
ของภูตที่เรียกว่าพราย
เขาจะต้องมีเรือนอยู่ เขาเลือกอยู่
ต้นกล้วยตานี เหตุผลคือ
ต้นกล้วยตานีมีอายุแค่ 8 เดือน
เท่ากับว่าเขามีเวลาอยู่โลกมนุษย์แค่ 8 เดือน
มันจะเป็นภพภูมิอายุแบบสั้นๆ
.
การที่เราจะได้พรายตานีได้นั้น
จะต้องได้จากผู้หญิงตายทั้งกลมจมน้ำตาย
วิญญาณเขาไป สิงในต้นกล้วยตานี
นี่คือของจริงมันจะต้องเป็นแบบนี้
นี่คือความรู้ของหลวงปู่แตง วัดอ่างศิลา
.
หากเราจะเจอต้นกล้วยตานี
เราจะรู้ได้อย่างไรว่ามีพราย
หรือไม่มีพราย
.
วิธีการดูต้นกล้วยที่มีพรายตานี จะต้อง
เป็นต้นกล้วยตานีแดง กาบแดง
กาบลำต้นแดง กาบใบแดง
แล้วก็ออกปลีข้างต้น
ปลีกล้วยต้องเป็นสีแดงด้วย
.
หากเราเจอแบบนี้ก็ให้รู้ไว้เลยว่า
เป็นที่สิงสถิตของ นางพรายตานี
ก็ต้องเป็นคนมีวิชาจึงจะรู้ว่ามีหรือ
ไม่มีนางพรายตานี
หากว่าเรามั่นใจว่ากล้วยต้นนี้
มีนางพรายตานี เราก็เอาด้ายสายสิญจน์
ที่ผ่านการจูงศพ
ด้ายแบบนี้สามารถบังคับวิญญาณได้
ในหลักความเชื่อของไสยศาสตร์
ในวิชาสายพราย
.
เมื่อด้ายจูงศพมาแล้ว
ก็จะเอาไปล้อมที่ต้นกล้วยตานี 3 ชั้น
เรากับนางตานีต้องอยู่ด้วยกัน
ซึ่งเขาจะมีคาถาเป็นโองการ
เชิญนางตานี
เราต้องว่าคาถาเชิญนางตานีออกมา
พอเราเห็นนางตานีออกมาจากต้นกล้วย
เราก็ต้องว่า คาถาเมตตามหานิยม
เพื่อจีบนางตานี ให้นางตานี
เกิดความรักความหลงในตัวเรา
.
ในสมัยโบราณมีมนต์
อยู่บทหนึ่ง คือ มนต์จินดา
(ใช้เป่าผีโดยตรง ทำให้ผีรักผีเมตตา ผีหลง ผีสงสาร)
นางตานีจะเกิดความรัก
ความเมตตา สงสาร พอได้จังหวะ
เขาจะเอาชอล์กปัฐมังโลกียะ
เขียนยันต์บนปลีกล้วย บังคับนางตานี
.
เมื่อนางพรายตานีหลงรักแล้ว
เขาก็จะว่าคาถาตัดปลีกล้วย
ออกมา แล้วเอาปลีกล้วยมานึ่ง
เพื่อที่จะบดเป็นผง
วิญญาณนางตานีก็จะมาอยู่ในปลีกล้วย
จากนั้นให้เอา
ปลีกล้วยมาลงยันต์
นำไปนึ่งไฟ เพื่อจะบดเป็นผง
เป็นชนวนมวลสาร
ในการทำน้ำมันพรายนางตานี
จากนั้นเราเอาเหล็กแหลมแทงที่ต้นกล้วย
ยางกล้วยก็จะออกมาเป็น สีแดง
รองยางกล้วยมาเคี่ยวทำน้ำมัน
ผสมกับปลีกล้วยที่เราได้มา
ก็จะสำเร็จเป็นน้ำมันพรายนางตานี
.
กรรมวิธีการเสกเราต้องเสกในวันพระ
ขึ้น 15 ค่ำ ที่ตรงกันทั้ง 8 วัน
(รวมวันพุธกลางคืนด้วย)
กวนให้ได้ 8 ครั้ง
มีเคล็ดเราต้องทำสำเร็จในอายุเรา
มันเป็นเรื่องที่ยากมาก
.
สีผึ้งนางตานีแดง
ทำมาจากหัวเชื้อน้ำมันพรายตานี
เราต้องไปหาขี้ผึ้งนางมัทรี
คือ นางทั้ง 5 คือ
นางรับ (แบบมือ)
นางกอด (เมตตา)
นางตะวัน (ห้ามสิ่งที่ไม่ดี)
นางหาบ (ค้าขาย)
นางใต้ดิน (มหาอุด)
.
เมื่อได้ขี้ผึ้งจากรังผึ้งหลวง
เราต้องเอามาสกัดเป็นขี้ผึ้ง
เพื่อมาปั้นเป็นเทียน ในเทียนจะลงยันต์ปัฐมัง
ประสูติ ตรัสรู้ ปรินิพพาน
แก้วทั้ง 3 ดวง เกิดมีปัญญาเข้าสู่นิพพาน
เอาเทียนไปถวายหน้ากัณฑ์เทศน์มหาชาติ
กัณฑ์มัทรี กัณฑ์ชูชกขอ 2 กุมาร
(เทศน์มหาชาติ ตอนนี้ว่าด้วยการรักสามี)
เป็นเคล็ดเรื่องเมตตามหานิยม
.
จากนั้นเอาขี้ผึ้งที่ผ่านการจุดเทียน
มาใช้สำหรับเคี่ยวสีผึ้ง
ผสมกับน้ำมันนางตานีแดง
และยังใส่ของที่ระบุไว้ในตำรา
อีกหลายอย่าง เช่น น้ำมันปลาพยูน
น้ำมันมะพร้าวตูหัน
น้ำมันนกในรังโพลง
น้ำมันนกสาลิกา
น้ำมันเถาวัลย์ผูก
น้ำมันว่านเสน่ห์จันทร์ทั้ง 5
น้ำมันว่านจันทร์ทั้ง 5 ฯลฯ
ผสมรวมกันแล้วเคี่ยวเป็นสีผึ้ง
.
สีผึ้งก็ต้องเคี่ยวในวันพระ 15 ค่ำ
ให้ได้ 7 วัน รวมวันสุดท้าย
ที่เกิดสุริยคลาส วันพุธ (กลางคืน)
วันราหูที่เกิดสุริคลาส ซึ่งถือว่าสมบูรณ์แบบ
สิ่งที่แปลกในขณะที่กวนก็คือ
หากเรากวนสีผึ้ง ฝนจะต้องตกลงมา
ในกระทะ เพราะต้องมีโองการเชิญเทวดาทั้งหมด
มาร่วมในพิธี รวมทั้งต้องมีฟ้าร้อง ฟ้าผ่า
ซึ่งตอนกวนสีผึ้งก็เกิดเหตุการณ์นี้จริงๆ
.
การนำเอาไปใช้ หากเป็นสีผึ้งไม่ต้องแต้ม
ให้พกติดตัวเฉยๆ เรื่องเงินทอง โชคลาภ
เสน่ห์เมตตามหานิยม
มันเป็นที่สุดการเลี้ยงภูต
เลี้ยงพราย เขาไม่ให้โทษ
เพราะเราได้เสกบังคับ
กำกับไว้เรียบร้อย คือ
เสกยกดวงจิตขึ้นไปแล้ว
การพกสีผึ้งดีติดตัวยังไง คือ
ดีเรื่องโชคลาภ เห็นชัดมาก
เรื่องเมตตามหานิยม เห็นชัดมาก
โดยที่เราไม่ต้องไปแต้มตรงไหนเลย
.
ดังนั้นพรายตานีก็จะอยู่บนโลกอีก 380 ปี
อีกหลายชั่วอายุคน
ใครที่มีไว้บูชาจะได้ความเป็นมงคล
สูงสุดของวิชาสายภูติ
บูรพาจารย์โบราณกล่าวว่า
“ใครที่ภูตติดตัวคนนั้นมักรวย”
.
สิ่งที่เรามองเห็นได้ชัด
ก็คือ นี้ใครที่แขวนขุนแผน
ผงพรายกุมาร หลวงปู่ทิม
วัดระหารไร่ ส่วนใหญ่มักเป็นคนมีเงินทอง
มีโชคมีลาภ แต่พรายกุมารของหลวงปู่ทิม
วัดระหารไร่ ความรุนแรงเทียบกันไม่ได้เลย
กับพรายนางตานี ใครที่มีไว้บูชาก็จะเป็นที่สุด!
.
♨️ ร้านมีตังค์สงขลา ♨️
วัตถุมงคล อ.แขก รือเสาะ

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้