ยาพม่าอาจารย์แขก

คุณสมบัติสินค้า:

SKU : 224

Share

ยาพม่าอาจารย์แขก

ยาสายพม่า
อาจารย์แขกนับเป็นคนแรก ๆ
ที่นำเข้ามาสู่ประเทศไทย
และนับเป็นคนแรก ๆ ที่เข้าไปศึกษา
การสร้าง สายคัมภีร์ปถมังสิทธิ
ซึ่งปัจจุบันนี้ก็มีการแตกแขนงออกมา
มีหลายสาย หลายแขนงมาก
บางคนก็เรียกสายตัวเองว่า สายส่วยหยิ่นจ่อ
มีหลายสาย แล้วแต่ความเชื่อของแต่ละคน
.
วิชาสายพม่า อาจารย์แขกจะไม่ค่อยสร้างขึ้นมา
เพราะมันมีเหตุ ปัจจัยหลายอย่าง
ถ้าจะสร้างให้ได้ผลจริง มันค่อนข้างทำยาก ถึงยากมาก
อาจารย์แขกจึงไม่ค่อยสร้างวัตถุมงคล แนวสายพม่า
.
ครั้งสุดท้ายที่อาจารย์แขกทำ
ตอนที่เดินทางไปที่เชียงตุง ทำพิธีที่วัดอินทร์บุปผาราม
อาจารย์แขกได้ทำยาพม่าขึ้นมา ไม่ว่าจะเป็น
ยาพุทธะ ยาพุทธะเจติยะ ยาสิวลี ยาสิวลีขี่แพะ ยาเสือ
ทำครั้งนี้นเป็นครั้งสุดท้าย ที่มีการทำยาพม่าขึ้นมา
แบบเป็นทางการ หมดแล้วหมดเลย เพราะไม่สามารถ
ทำเพิ่มได้ ฉนวนมวลสารแต่ละอย่างไม่เหมือนกัน
.
วัตถุมงคลวันนี้
เป็นยาพม่าที่ทำขึ้นมาใหม่
เหตุผลที่ทำขึ้นมาใหม่ เพราะมันเป็นไปตาม
กลไกลของหลักการเรียน "สายวิชาธัมมเจติยะ"
.
รูปยาพม่าวันนี้เป็นรูป "อาจารย์แขก"
ที่ใส่ชุดสย่า และสร้างจากยาพม่าล้วน ๆ
มีขนาดไม่ใหญ่มาก
.
มวลสารหลักในการทำ
ยาพม่าชุดนี้ชื่อ "คุรุปฐม"
คุรุ แปลว่า ครู
ปฐม แปลว่า เริ่มต้น
คือการเริ่มต้นในการสร้าง
รูปเคารพขององค์ครูขึ้นมา
.
ชนวลมวลสารหลัก คือยาครูทั้ง 10
เป็นยาครูทั้ง 10 ท่าน ที่มีชื่อ
โพโพอ่อง
โป๊ะมินข่อง
โป๊ะต่อเอ
โป๊ะต่อบิว
โป๊ะต่อปุ้ย
สัจจะยามิน
สังขวิชา
อ่องวิชา
มหาโอสถวิชา
เส่วิชา
(ฮู้ทั้ง 10 ในวิชาสายธัมมะเจติยสิทธิ)
.
สร้างจากยาสิทธิทั้ง 10 ประการ ของครูทั้ง 10
1 องค์ ได้ยาครูทั้ง 10 ชนิด
.
เหตุผลว่าทำไมต้องใส่ยาครูทั้ง 10 ลงไป
คุรุ คือ ครู ต้องเป็นปฐมเหตุแห่งครูทั้ง 10 ก่อน
คุรุปัทมะ คือครูทั้ง 10 รวมถึง
อาจารย์แขก เป็นคนที่ 11 ในรุ่นนี้
.
อาจารย์แขกจึงสร้างเป็นรูปอาจารย์แขก
โดยที่อาศัยแรงครูจากครูบาอาจารย์ทั้ง 10
ทำขึ้นมาเป็นรูปเคารพ อาจารย์แขก
ต้องหวังพึ่งพุทธคุณแห่งครูทั้ง 10 ท่าน
.
ที่สำคัญคือ
นอกจากใส่ยาครูทั้ง 10
เนื่องจากเป็น "ปฐม" คือ ขั้นที่ 1
ได้ใส่ยาหนักไปในเรื่องเมตตา
เมตตา คือ
ใส่ยาสุรสตรีชั้นสูง ทั้ง 25 ปาง
ใส่ยาสิวลี 16 ปาง
.
ชนวนมวลสารที่ใส่
ครั้งนี้ที่ทำขึ้นมา เก็บชนวนมวลสาร
คือขันธ์ครู ที่ผ่านการไหว้ครูมาแล้ว
ตั้งแต่ปี 52 จนถึงปี 62 รวม 10 ปี
เป็นผงจากขันธ์ครู เป็นผงดอกไม้
ที่เรียกว่า "พรรณประการ"
หรือปันปอง ของพม่า ครบ 10 ปี
.
พานครู 1 พาน ประกอบด้วย
สวยดอก คือ ดอกไม้
สวยพลู คือใบพลู
มีพลู มีดอกไม้
เขาเชื่อดอกไม้ 1 ดอก
แทนเทพเทวา 1 องค์
.
ขันธ์ครูมีทั้งหมด 3 ขันธ์
1. ขันธ์พิฆหนูราชา
2. ขันธ์ 108
3. ขันธ์ครูพยัคฆ์
(ขันธ์ที่อยู่ในสำนักอาจารย์แขก
เก็บมวลสารมาครบ 10 ปี)
.
รูปลักษณ์คือ ปัฐมะ ว่าด้วยการเดินธาตุ
รูปทรงจะเหมือนรูปบูชาไม้แกะของอาจารย์แขก
มีอุดพระบูชาข้างในทุกองค์
.
ที่สำคัญ ยาพม่ารุ่นนี้ เป็นยาครู ต้องปิดทอง
ปิดทองแท้ ปิดเฉพาะตัวด้านหน้าแต่ละองค์
.
เหตุผลที่ปิดทองด้านหน้า ไม่ปิดทั้งองค์
เพราะจะได้เห็นข้างหลังว่าเป็นยันต์
ของสายวิชาธัมมเจติยะ
.
ด้านหลัง
เป็นยันต์กำเนิด ประจำตัวอาจารย์แขก
ให้มันก่อเกิดขึ้นมา
ฝังพลอย ฝังแร่ เอาไว้
มีชื่ออาจารย์แขกด้านหลัง
อาจารย์แขก สร้างยาปฐม ขึ้นมาเป็นยาแรก
เพื่อสร้างยาชุดนี้ขึ้นมาเป็นยาแรก
เน้นหนักในเรื่อง บารมี อำนาจ
เมตตามหานิยม เพราะสุรสตรี สิวลี
เป็นทั้งโชคดี และโชคลาภ
.
มันบอกความเป็นตัวตนของอาจารย์แขกได้ดี
.
พกติดตัวได้ ต้องพกสูงมาก
ไม่มีข้อห้าม เพราะเราไม่ได้สักในตัว
.
คาถาบูชา
สัง กุ่ง ปะ มะ ยะ
พระเจ้าทั้ง 5
.
ที่ก้น รันเลข ทุกองค์
(เป็นครั้งแรก ที่ยาพม่ารันเลข)
.
คนที่ชอบยาพม่า
จะดีตรงที่ว่า เราไปไหน
เทพเทวาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ฝ่ายดี
จะมาอวยพรเราอยู่เสมอ
ตลอดเวลา
.
บูชา องค์ละ 1000 บาท
...
รายได้ จะนำมาสร้างองค์ใหญ่
จะนำมาสร้างครูพม่าองค์ใหญ่ 10 องค์
ไว้ที่สำนักใหม่ หล่อเป็นโลหะ
.
ใครที่มีความเชื่อ
ความศรัทธาในสายวิชาธัมมเจติยะ
เปรียบประดุจว่าคุณได้บูชาครูในการที่เอารายได้
ไปหล่อองค์ใหญ่
.
ในประเทศไทย อาจารย์แขก
คือผู้ที่บัญญัติ "ธัมมเจดีย์สิทธิ"
ที่มีครูทั้ง 10 องค์ อย่างเป็นทางการ
และได้นำมาเผยแพร่เป็นคนแรก
.
อาจารย์แขกไปเรียน "สายธัมมเจติยะสิทธิ"
พูดสั้น ๆ ในภาษาไทย คือ "สายธัมมเจดีย์"
.
บูรพาจารย์ในสมัยอดีต
คือเป็นผู้ที่สร้างวิชาขึ้นมา
สำเร็จด้วยตัวเองได้ทั้งหมด ทั้ง 10 คณาจารย์
ตั้งแต่ "โป๊ะมินข่อง" โป๊ะโป๊ะอ่อง"
.
โป๊ะมินข่อง และโป๊ะโป๊ะอ่อง
ทุกคนจะรู้จักมากเพราะในพม่าปัจจุบัน
บูชา 2 ท่านนี้ ประดุจเป็นเทพเจ้า
ที่ยังมีชีวิตอยู่ เหมือน
"พระครูเทพโลกอุดร"
ในสายของไทยเรา
.
และในความเชื่อในสายปถมัง
ก็คือสายธัมมเจติยะสิทธิ
หรือสายนิกายธัมมเจดีย์
ก็ยังมีความเชื่อว่าบูรพาจารย์
ทั้ง 2 ท่านนี้ ก็ยังมีชีวิตอยู่
.
เนื่องจากมีหลักฐานยืนยัน
ว่าตอนที่พายุนาร์กิส ลงเมืองย่างกุ้ง
ได้ครูบาอาจารย์ทั้งสองท่าน
คือโป๊ะโป๊ะอ่อง เขาเชื่อว่า
ได้ออกมาบอกนายพลในสมัยนั้น
ให้ทำการย้ายเมืองจากย่างกุ้ง
ไปมัณฑะเลย์ ก่อนล่วงหน้า 1 ปี
เพราะจะมีพายุกระหน่ำ ลงมา
ในเมืองย่างกุ้ง ทำให้ประชาชน
บาดเจ็บ ล้มตาย เป็นจำนวนมาก
.
จากการที่ท่านออกมาสั่ง และนายพล
ได้ปฏิบัติตาม ทำให้เห็นว่าพายุนาร์กิส
ที่ลงที่ย่างกุ้งส่งผลน้อยมาก กับประชาชน
ของชาวพม่าที่อยู่อาศัย
.
แต่สิ่งหนึ่งที่ทำให้ปัจจุบันนี้หลากหลาย
ในประเทศไทยก็คือ ของเก่า ยา
เครื่องรางของขลัง ในเมืองย่างกุ้งทั้งหมด
ที่มีการย้ายเมืองหลวง ถูกนำเข้ามาสู่
ฝั่งประเทศไทยเป็นจำนวนมาก
.
และเกิดการค้นคว้าจากครูบาอาจารย์ของไทย
หลาย ๆ กลุ่ม หลาย ๆ สำนัก จนตั้งสำนัก
ของตัวเองตามแต่ที่ใครจะคิดได้
.
แต่วิชาสายธัมมเจติยะสิทธิ
มีครูทั้งหมด 10 ท่าน
มีคัมภีร์หลักทั้งหมด 10 เล่ม
.
นิกายธัมมเจติยะสิทธิ และมีครู 10 ท่าน
ให้คุณรู้ไว้เลยในประเทศไทย
"อาจารย์แขก"
คือผู้นำมาเผยแพร่คนแรก
.
ครู 10 ท่าน ไม่ว่าอยู่ในคัมภีร์เล่มใดก็แล้วแต่
ไม่มีระบุบอกถึงบางท่าน ในครูบาอาจารย์
ทั้ง 10 ท่านนี้ แต่ชื่อของชื่อครูบาอาจารย์
ทั้ง 10 ท่าน มีอยู่ในศิลาจารึกของเจดีย์
ที่มียาพม่า แตกออกมาในบางกรุ
แล้วครบทั้ง 10 ท่าน
.
จนได้ประวัติความเป็นมาเป็นไป
ของสายธัมมเจติยสิทธิ
ตอนที่ เจดีย์รูปหนึ่งที่เมืองยอแตก
และมีแผ่นลานทองออกมา
บอกถึงชื่อครูบาอาจารย์
บอกถึงยุค บอกถึงประวัติ
ความเป็นมาเป็นไปของนิกาย
ธัมมเจติยสิทธิ อย่างเป็นทางการขึ้นมา
.
รูปพ่อครูทั้ง 10 ถูกวาดโดยช่างที่ จังหวัดยะลา
โดยคำบอกเล่าจากอาจารย์แขกทั้งหมด
.
ครูทั้ง 10 ท่านที่ถูกนำมาเรียงกัน
ทั้ง 10 องค์ ที่มีการเผยแพร่ในโลกออนไลน์
รูปใบนั้น "วาดโดยอาจารย์แขก"
.
โดยอาจารย์แขกขึ้นโครง รูปร่าง
แล้วให้ช่างที่ จ.ยะลา ชื่อ "ช่างไผ่"
เป็นคนวาด เก็บรายละเอียดทั้งหมด
.
เพราะฉะนั้น..
ถ้าถามว่าคนที่บัญญัติ ธัมมเจดีย์สิทธิ
ที่มีครูทั้ง 10 องค์ อย่างเป็นทางการ
พูดได้เต็มปากว่า "คืออาจารย์แขก"
.
ส่วนตัวอาจารย์แขก ได้บวช
ในวิชาธัมมเจติยสิทธิ อย่างเป็นทางการ
พร้อมกับมีชื่อ หรือฉายา ออกมาแบบชัดเจน
มีการสืบสายวิชากันอย่างชัดเจนที่สุด
.
อาจารย์แขก ไม่ค่อยได้นำวิชาสายพม่า
มาเผยแพร่ ด้วยมูลเหตุที่ว่า
ปัจจุบันมีบุคคล หลายบุคคล นำมาเผยแพร่
และไม่ตรงกับอาจารย์แขก ไม่ตรงกับความรู้
ที่อาจารย์แขกรู้ อาจารย์จึงได้เก็บความรู้
ไว้กับตนเอง โดยที่ไม่ออกไปเผยแพร่ใคร
.
ถ้าคุณสืบค้นเข้าไปให้ลึก คุณจะรู้ว่า
วิชาธัมมเจติยสิทธิ หรือยาพม่า
ที่พวกคุณใช้กันทุกวันนี้
คนที่นำมาเผยแพร่หลัก ๆ คือใคร
.
อาจารย์แขกนำมาเผยแพร่
ก็ไม่ได้นำมาบอกในโลกออนไลน์
ให้คนรุ่นใหม่ เข้าใจ
.
อยากให้คุณจำไว้ว่า คนที่นำมาเผยแพร่เป็นคนไทย
คุณไม่รู้ขนบธรรมเนียมประเพณีเขาเลย
1. คุณไม่รู้ภาษา
2. คุณไม่รู้ตัวหนังสือ
3. คุณไม่รู้ซึ่งศาสตร์พิธีกรรม
แม้กระทั่งของบางชนิดที่ใช้ในการไหว้ครู
บางอย่างคุณก็ไม่รู้
.
จากที่อาจารย์เห็นในโลกออนไลน์ปัจจุบัน
ของที่ใช้ไหว้ครู
คุณถอดมาจากการไหว้ "นัตโบโบยี"
ที่พม่า ก็คือเป็นของที่อยู่ในขันธ์ครู
ของการไหว้เทพโบโบยี
(เทพทันใจ ที่พม่า) ไม่ว่าจะเป็นหมาก
ไม่ว่าจะเป็นกล้วย
ที่คุณนำมาบูชา มันเป็นการบูชาเทพของพม่า
------------------------------
------------------------------
ประวัติของผงครูทั้ง 10
.
ผงครูทั้ง 10 อยู่ในเจดีย์แตกมาจากเมืองยอง
พ.ศ. 1116 (1,419 ปี) ได้ผงเก่าทั้งหมด
ของครูทั้ง 10 ทั้งโหลอยู่กับอาจารย์แขก
.
การใส่ผงมีอัตราส่วนในการใส่
จะมีตัวตวงของพม่า เขาเรียก "จ้อย"
อัตราตวงเรียกเป็นจ้อย 1 จ้อย
สามารถสร้างได้ 48,000 องค์
.
ยานี้เป็นหนึ่งในสิบ ยังไม่รวมสุรสตรี ไม่รวมสิวลี
.
ยานี้ชื่อยา "สัตจะะยามิน"
.
เหตุผลที่ได้ยานี้มา เพราะอาจารย์แขก
บูรณเจดีย์ลูกนี้ไป สามล้านแปด
ถึงได้ยาข้างในมา เป็นยาสมบูรณ์อยู่ 5 เม็ด
อยู่ครบทั้ง 5 เม็ด ที่เหลือเป็นผงทั้งหมด
.
ครูบาอาจารย์นำผงทั้งหมด มีศิลาจารีก
มีแผ่นลานทอง มีแผ่นลานเงิน ของเมืองยอง
วิธีการบอกถึงประวัติที่มา พ.ศ.
อาจารย์ได้สร้างขึ้นมาใหม่ 108
และบรรจุกลับเข้าไปตอนที่บูรณะเจดีย์
(นำผงที่แตกหักนำมารวบรวม พร้อมกับหา
ชนวนมวลสารในตำราใหม่ 108
มาผสมรวมกันทั้งหมด
และบรรจุในตลับเงิน 108
และสร้างเพิ่มอีก 1,000 ใส่ในโถแก้ว
เท่ากับมี 1,000 กับ 108 ของเก่าที่ผสมใหม่แล้ว
.
ด้านในใส่พระธาตุ ยาพม่าชั้นสูง
ข้างในจะมีสารีริกธาตุ
บรรจุเข้าไป
.
ส่วนยา 1,000 ไม่มีพระธาตุ และบรรจุเข้าไป
.
และผงที่เหลือจากการทำยา 1,000 อยู่ที่อาจารย์แขก
ทั้งหมด จึงได้นำมาเป็นมวลสาร จึงนับเป็น 1 อาจารย์
ยานี้นับเป็นยาสัจจะยามิน
.
รวมถึงหล่อพระเนื้อนวะโลหะ
บรรจุเข้าไปด้วยในแต่ละทิศ
วิชาสายธัมมเจติยะ เป็นแบบนี้
.
ยาที่นำมาทำ เป็น 1 ใน 10 ยังไม่ใช่ทั้งหมด
.
ไม่สามารถตีเป็นเงินได้
เพราะผงที่นำมาทำยาพม่ากลับเข้าไป
ในเจดีย์ยาสัตตะเจดีย์กลับเข้าไป เช่นอาจารย์แขก
สำเร็จวิชาแมลงภู่ กับสุรสตรี ของพม่า
นำผงยาแมลงภู่กับสุรสตรีมาร่วมสร้างกับเขา
ผงที่ทำมาทั้งชีวิตตีเป็นตังค์ไม่ได้
และครูบาอาจารย์ที่มาร่วมกันทำร้อยกว่าอาจารย์
นำมารวมกัน
.
พระชุดนี้ไม่มีการนำมาทำใหม่
.
ถือเป็นชนวนมวลสารที่โบราณ
เป็นยาโบราณที่ถูกนำมาสร้างใหม่
ให้เป็นประวัติศาสตร์หน้าใหม่
ของสายวิชาธัมมเจติยะ
----------------------------
ร้านมีตังค์สงขลา
วัตถุมงคล อ.แขก รือเสาะ
Line ID : @meetangsongkhla
คลิ๊กลิ้งค์ด้านล่างได้เลยคะ
https://lin.ee/1TKMBgc
แอดแล้วทักเข้ามาสอบถามได้คะ
โน้ตยินดีให้บริการทุกท่านค่ะ
โทร. 089-462-0910
--------------------------------
ขอวอลเปเปอร์ทักไลน์ได้เลยค่ะ
พิมพ์ : ขอวอลเปเปอร์ยาคุรุปัทถะมะ

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้